Monday, October 1, 2012

Singapore Airline Recruitment

สวัสดีสาวๆที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนางฟ้าทุกท่าน
ขอรายงานตัวก่อนเลยนะฮ๊าบ ว่าเมย์เองเป็นหนึ่งในนั้น ฮิฮิ
และในบล๊อคนี้ เมย์จะมาแชร์ประสบการณ์การ Walk in 
ไปสมัคร Singapore Airline แบบงงๆของเมย์ที่ Singapore ค่ะ

เมื่อช่วงวันที่ 21-23 มีโอกาสได้เดินทางไปทำธุระที่สิงคโปร์
เลยถือโอกาสใช่เวลาว่่างช่วงเช้า ไปแอบสมัครซะเลย
(จริงๆตั้งใจไปสมัครก็บอกมาเหอะ แหะๆ) แต่เป้าหมายหลัก
คือทำธุระ จริงๆนะ จริงๆๆ 

วิธีการสมัคร หรือ Walk in ที่หลายๆคนเรียกก็ง่ายดาย
สะดวกสบายเหมือนไปพารากอนเลยค่ะ เผลอๆ พารากอน
ไปยากกว่า ไหนจะไปรถไฟฟ้า หรือบาางคนก็ต้องต่อสู้หาที่จอดรถ

การรับสมัครมีสองวันนะค่ะ นี่คือรวมขั้นตอนทั้งหมดไปจนถึงลองชุด : )
ยาวหน่อย ลองอ่านกันดูนะคะ

22 กันยายน : 8.30 - 14.00

สถานที่คือ Sheraton Tower Hotel ตั้งอยู่บนถนน Scotts ค่ะ โชคดีมาก
ที่โรงแรมที่เมย์ไปพักก็อยู่บนถนนนี้ จริงๆถ้าเดิน 5 นาทีก็ถึง แต่..
อย่าเสี่ยงกับอากาศที่นี่เลย ไม่ต่างอะไรกับที่ไทย ร้อนพอๆกัน

การแต่งตัวไม่ต้องเอาแป๊ะมากก็ได้ค่ะ เอาแบบเรียบร้อยไปสมัครงาน
ก็พอแล้ว แต่ใครใคร่จะแต่งเต็มไปก็ย่อมได้ เพื่อระบุตัวตนว่าเป็นคนไทย
(คือคนไทยร้อยทั้งร้อย ผมเป๊ะหน้าเป๊ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีค่ะ เห็นผ่านกันหลายราย)
สำหรับเมย์เอาเชิ้ตขาวจาก Uniqlo และกระโปรงดำมือสอง และรองเท้า
ที่ใส่ตอนรับปริญญาไป ขอสารภาพว่ารู้ว่าจะมีการรับสมัคร 
แต่ไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไป คือคิดว่าถ้าตื่นทันก็จะไป.. 
แล้วมันดันตื่นมาตอน 7 โมง ทันพอดี ไหนๆก็ตื่นแล้ว
อาบน้ำแต่งตัวเลยละกัน แหะๆ 
ส่วนผมไม่ได้มวยองุ่น มวยกล้วย มวยแอปเปิ้ลอะไรเลยค่ะ 
รวบหางม้า ติดกิ๊บข้างหน้าให้ผมไม่รุงรังเท่านั้นเองค่ะ

ไปถึง bell boy ข้างหน้าก็แนะนำว่าให้ไปทางไหน จากจุดนี้เราเจอคนไทยแล้ว
แต่ก็ผ่านเลยไป ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรืออะไร แต่อยากรีบสมัครให้เสร็จ
จะได้รู้ผลว่าผ่านไม่ผ่าน คนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ 
ย้อนกลับไปหน่อยนะคะ ถ้าบอกว่าเมย์แต่งตัวธรรมดามาก 
ไม่มีสูท ไม่มวยผลเกล้าผม ขอให้มาเห็นภาพประชาชีที่นี่ 
แม่เจ้าโว้ยยยยย ชิลไปนะ บางคนรองเท้าไม่มีส้น บางคนสูงเป็นคืบ 
บางคนก็กางเกงมาเลย แม่เจ้าโว้ย นึกว่ามาสยาม (แต่แฟชั่นบ้านเราชนะขาดนะ)

ก็ต่อแถวรอยื่นใบสมัครค่ะ ดาวน์โหลดและกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย
พร้อมกับ.. ตอนนั้นแมย์ติดสำเนา Passport กับ ใบปริญญาไปด้วย
พร้อมกับรูปขนาด Passport ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้แปลอะไรไปเลย

ระหว่างที่เรารอเข้าแถวก็จะมีคุณพี่มารับใบสมัครไป 
แล้วก็เอาหมายเลขมาให้เรา จากนั้นก็จะต้อนเราเข้าไปนั่งฟัง
presentation ของสายการบินซึ่ง.. เค้าไม่ได้ฟังอะตัวเธอ 
มัวแต่คุยกับเพื่อนใหม่ ได้เพื่อนใหม่เยอะมาก ขอบอกว่าสนุกจริงๆ 
การได้คุยกับคนที่มีความฝันเหมือนเรา เป็นประสบการณ์ที่ดีเลยละค่ะ

จากนั้นก็จะเข้าไปแนะนำตัวต่อกรรมการ เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน
คนแรก.. คุณพร๊ะ !!! คนแรกของกลุ่มเมย์เหมือนสุนทรพจน์
นางเล่าขานชีวิตนางเป็นฉากๆ ตอนนั้นในใจคิดว่า.. "เรือหาย" แล้วตู
แล้วพอคนแรกมาเต็มขนาดนั้น ทุกคนเลยเต็มหมด.. จะเป็นลมค่าาา
มีอะไรใส่ให้หมดนะคะช่วงนี้ เป็นโอกาสเดียวของเราละค่ะจุดจุดนี้

พอครบทุกคนเค้าก็จะให้เรามารอเพื่อเรียกว่าใครผ่านไปอีกบ้าง 
แล้วก็พาเราเดินเข้าไปขั้นตอน เอื้อมแตะ สบายๆ เมย์สูง 158 159 160
คือวัดแต่ละที่ไม่เท่ากัน เผื่อใครอยู่ในระดับความสูงใกล้เคียง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การฝึกฝนความยืดหยุ่นของร่างกาย ช่วยได้นะคะ
แต่ไม่ใช่ว่าไปสมัครพรุ่งนี้ ฝึกวันนี้นะ อันนี้คงไม่ช่วยเท่าไหร่

จากนั้นก็จะไปตรวจเอกสาร ขอดูปริญญา ถ้าใครขาดอะไรยังไง
เค้าก็จะเตือนๆไว้ แล้วค่อยเอามาให้เค้าถ้าผ่านค่ะ

จากนั้นพี่สาวคนสวบก็จะมาพาเราไป.. Skin Check !!!
What the heck มันมีอะไรแบบนี้ด้วยหรือ ??!! ในห้องจะมี
กรรมการอยู่ประมาณสองสามคนค่ะ มีไฟสปอทไลท์สว่างๆ
เราต้องไปยืน ณ จุดจุดนั้น ให้ไฟส่องหน้า ลองนึกดูนะคะ
ไฟส่องมาจากด้านล่าง ถ้าไฟสีเขียวละก็.. น่ากลัวไม่เบา
ดคเาจะดูหน้าเรา มีสิว ผด ผื่น ตรงไหน หันซ่้าย หันขวา เปิดไรผม
ดูทั่วทั้งหน้า ให้หันหลัง เปิดดูต้นคอ ส่องหลังนิดหน่อย
ซึ่งเมย์ไม่ได้หน้าใสคะ มีผดผื่นอยู่บางๆ แต่แต่งหน้าปิดไปหน่อย
ส่วนคอก็ถูกขี้ไคลกันไป และหลังก็มีรอบดำจากสิวอยู่.. 
ท้ายสุดก็จะให้เดินให้ดู ไม่ต้องสับขาหลอกแบบนางแบบนะคะ
เอาแบบเดินสง่าๆก็พอ เดินสบายๆ แต่ก็ไม่ต้องถึงขั้นลากเท้า 
แล้วก็มารอหน้าห้อง พี่สาวก็จะมาบอกว่าเรา ผ่านไม่ผ่าน ซึ่ง.. ผ่านคะ !! 

ขั้นสุดท้ายของวันนี้ คือ Interview เดี่ยวค่ะ 
เค้าก็จะพูดคุยกับหน้าที่การงาน ชีวิตปัจจุบันของเรา พร้อมกับให้สถาณการณ์
จำลองที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินมาให้เราอ่านออกเสียงด้วย ก็มีคำถามต่อ
เมย์ได้เรื่องประมาณว่า เป็น Royal customer แต่อยากจะอัพเกรดอาหาร
แล้วก็บ่นว่าการบริการของเราแย่มาก ช้ามาก เราจะทำยังไง
ซึ่งเมย์ตอบไปว่าเรื่องอัพเกรดอาหาร คงทำให้ไม่ได้ เพราะการกระทำแบบนั้น
อาจทำให้ผู้โดยสารคนอื่นๆเรียกร้องบ้าง หรืออาจจะดูถูกว่าเราเลือกปฏิบัติ
ทางแก้ไขคือ เราก็บริการเค้าให้ดีที่สุด แสดงความใส่ใจ หาเครื่องดื่ม
หรือไวน์มาบริการเค้า ซึ่ง.. ไม่รู้ถูกหรือเปล่า เค้ามีคอมเม้นต์นะ แต่.. 
ฟังไม่ค่อยออก.. ก็ไม่ได้เกิดมาพูดเป็นภาษาแม่ และสำเนียงในลำคอของพี่
ทำน้องชอกช้ำนัก ได้แต่ยิ้ม แล้วพยักหน้าไปเรื่อย -..-

แล้วก็ออกมานั่งรอค่ะ สำหรับคนที่ผ่าน ก็จะมีใบนัดมาให้มาในวันพรุ่งนี้ค่ะ
แล้วเมย์ก็ได้ด้วยล่ะ : )

23 กันยายน : 9.00 SIA Training Center

รู้ตัวตอนค่ำว่าพรุ่งนี้ไม่ใช่ที่โรงแรมแล้ว และต้องไป 9 โมง 
และที่ที่จะไปอยู่เกือบถึงสนามบินแหนะ โอยยย เป็นลม 
ออกตัวก่อนว่าความทรงจำวันนี้ ไม่ค่อยมีเลยค่ะ นอนตี 4 ตื่น 6 โมงครึ่ง 
นั่งรถไฟไปเจอเพื่อน เพื่อขึ้นแท็กซี่ไปด้วยกัน ง่วงมาก ส่องกระจกนี่คือ
ตาแดงมากๆ ไม่พร้อมมากๆ สาวๆต้องเตรียมความพร้อมนะคะ
พักผ่อนกันเยอะๆ 

ไปถึง SIA Training center แบบงงๆ แลกบัตรแล้วเข้าไปข้างใน 
อ่อเค้าจะมีใบสมัครให้กรอกด้วยค่ะ ให้มาเมื่อวาน เพิ่งมากรอกเอา
วันนี้ ชุดก็ชุดเดิม ผมเดิม คือมานั่งนึกตอนนี้แล้วโกรธตัวเองมาก
ทำไมไม่ทำตัวให้พร้อม เฮ้อออ บทเรียนนะ บทเรียน...

จากนั้นก็จะเรียกทีละ 6 คน ให้เรานั่งทำความรู้จักกัน เมื่อเข้าไปในห้อง
เค้าเรียกกันว่าเป็นรอบ Debate เค้าก็จะให้เราแนะนำเพื่อนข้างๆ 
โห่.. มึนตึ๊บ จำไรแถบไม่ได้ นี่ละหนอ ผลของการนอนน้อย >.<
เอาละพลาดไปละ 1 พอมาให้แบ่งกลุ่ม Debate เหมือนกับเราพูดคุยกัน
แต่ตอนเริ่มพูด ไม่ได้ตกลงกันว่าใครจะพูดสาเหตุไหน หัวข้อไหน และคนแรก
มาฟาดเหตุผลเราไปด้วย เหมือนพูดรวมๆ พอมาถึงเรา ดับค่ะ
เมย์พูดวนไปวนมา เหมือนรวมสองคนเข้าด้วยกัน ซึ่ง.. พูดได้ว่าแย่จริงๆ

และก็ตกที่รอบนี้เอง ไม่เสียใจค่ะ แต่เสียดายที่ตัวเราไม่พร้อม
เฮ้ออ อดลอง Kabaya เลย แย่จัง คราวหน้า 1 ธันวา ใครจะไปอีก 
บอกหน่อยนะคะ เผื่อจะไปด้วยคน ฮิฮิ

จะว่าอดหลับอดนอน ตั้งใจว่ากลับโรงแรมแล้วจะนอน เปล่าเลย
ไปดู F1 ซ้อมวิ่ง น้ำหูน้ำตาไหล ดีใจที่ได้เห็น จนลืมว่าเมื่อเช้ามึนแค่ไหน
ทำไมมันไม่ไปวิ่งแถวๆ SIA Training Center บ้างนะ หึยยยยยย

เตรียมตัวให้พร้อม คือสิ่งเดียวที่จำเป็นค่ะ

ลาละคะ : )

ปล.ระหว่างนี้กก็ฝากติดตามละคร ซิทคอม และรายการต่างๆของเมย์ด้วยนะคะ :D